วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556

กิตติกรรมประกาศ



กิตติกรรมประกาศ

                งานวิจัยฉบับนี้สำเร็จได้ด้วยดี จากคำปรึกษาและความช่วยเหลือจากคุณครูยิ่งศักดิ์  กระจ่างแจ้ง คุณครูประจำวิชาวิจัยอิสระ(Independent Study: IS) ที่กรุณาให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะทำให้งานวิจัยมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น คณะผู้วิจัยขอขอบพระคุณอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้
                ขอขอบคุณนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนพะเยาพิทยาคมที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการเก็บรวบรวมข้อมูล และให้ข้อมูลอย่างครบถ้วนบริบูรณ์ตามความเป็นจริง ซึ่งทำให้การวิจัยครั้งนี้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
                สุดท้ายนี้คณะผู้วิจัยขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องท่านอื่นๆ และขออภัยที่ไม่ได้กล่าวนามไว้ ณ ที่นี้ ที่ให้กำลังใจและให้การสนับสนุนจนวิจัยนี้สำเร็จได้ด้วยดี


คณะผู้วิจัย

วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บรรณานุกรม


บรรณานุกรม

กาญจนา  เชื่อมศรีจันทร์.(2552).ประโยชน์ของการอ่านหนังสือ.(ออนไลน์).แหล่งที่มา: http://www.thaigoodview.com. (สืบค้นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2555)
กูรู.(2555).ประเภทของหนังสือ.(ออนไลน์).แหล่งที่มา:
            http//guru.sanook.com/enc_preview.php?id=2652 .วันที่สืบค้น 8 มิถุนายน 2555
วรวัจน์ เกตุดี.(2545).ความหมายและประเภทของหนังสือ.(ออนไลน์).แหล่งที่มา:
            http://www.school.net.th./library/create-web/10000/generality/10000-4390.html.(สืบค้นเมื่อวันที่ 8
            ธันวาคม พ.ศ.2555)
วิกิพีเดีย.(2555).หนังสือ.(ออนไลน์).แหล่งที่มา:
             http//th.wikipedia.org/wigi/. (สืบค้นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2555)
  
อภิชัย สมนาม.(2555).ความสนใจในการอ่านของนักศึกษาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น.(ออนไลน์) .แหล่งที่มา:
              http://www2.feu.ac.th/acad/ol/thai/articles_detail.php?id=39

บทที่ 5

บทที่ 5
สรุปผล อภิปราย และข้อเสนอแนะ

สรุปผลการทดลอง
                จากการทดลองพบว่า พฤติกรรมการอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนพะเยาพิทยาคม คือหนังสือการ์ตูน รองลงมาเป็น วารสารด้านสุขภาพ หนังสือพิมพ์ ด้านข่าวบันเทิงตามลำดับ ต่อมาหนังสือเรียนวิชาชีววิทยา หนังสือนิยาย และวารสารด้านการท่องเที่ยว
                ดังนั้นข้อมูลทั้งหมดนี้จึงมีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อการศึกษาของไทยอย่างมาก ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ทำให้รู้ว่าพฤติกรรมการอ่าน รวมทั้งพฤติกรรมการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ของวัยรุ่นไทย ยังไม่เหมาะสมเท่าที่ควรจะเป็น ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวยังบ่งบอกให้ ผู้ปกครองต้องเข้ามาดูแล เรื่องพฤติกรรมเหล่านี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับตัวนักเรียนเอง ผู้ปกครอง และประเทศชาติต่อไป

อภิปรายผลการทดลอง
                จากการทดลอง  โดยใช้นักเรียนโรงเรียนพะเยาพิทยาคมจำนวน 30 คน เป็นเพศชาย 18 คน เพศหญิง 12 คน ในระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2555-กุมภาพันธ์ 2556 ในการตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับประเภทหนังสือที่ชอบอ่านของนักเรียนโรงเรียนพะเยาพิทยาคม พบว่า
ประเภทหนังสือที่นักเรียนโรงเรียนพะเยาพิทยาคมชอบอ่าน คือ หนังสือการ์ตูน(90% ) มีผู้อ่านมากที่สุด หนังสือวารสารด้านสุขภาพ (50%) หนังสือพิมพ์ ด้านข่าวบันเทิง (43.33% )หนังสือเรียนชีววิทยา (40%) หนังสือนิยาย (40% ) วารสารด้านการท่องเที่ยว(33.33%)หนังสือพิมพ์ด้านข่าวกีฬา (33.33% ) หนังสือเรียนคณิตศาสตร์ (30%)หนังสือเรียนฟิสิกส์(30%)นิตยสารด้านอาหาร(30%)นิตยสารด้านกีฬา(30%)ตามลำดับ

ข้อเสนอแนะ
1.             ควรมีการเก็บข้อมูลจากกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมทุกระดับชั้น
2.             ควรมีการให้ความรู้ถึงการอ่านหนังสือ          

วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บบที่ 4


                                               บทที่ 4
                                       ผลการทดลอง


จากการสำรวจและรวบรวมข้อมูล พบว่า นักเรียนโรงเรียนพะเยาพิทยาคม ชอบที่จะอ่านหนังสือการ์ตูนมากที่สุด  ต่อมาเป็นหนังสือวารสารด้านสุขภาพ และหนังสือพิมพ์ ด้านข่าวบันเทิงตามลำดับ               ดังกราฟ

จากการรวบรวมข้อมูล พบว่า หนังสือการ์ตูน(90% ) มีผู้อ่านมากที่สุด หนังสือวารสารด้านสุขภาพ (50%) หนังสือพิมพ์ ด้านข่าวบันเทิง (43.33% )หนังสือเรียนชีววิทยา (40%)หนังสือนิยาย (40%) วารสารด้านการท่องเที่ยว(33.33%)หนังสือพิมพ์ด้านข่าวกีฬา (33.33% ) หนังสือเรียนคณิตศาสตร์ (30%)หนังสือเรียนฟิสิกส์(30%)นิตยสารด้านอาหาร(30%)นิตยสารด้านกีฬา(30%)ตามลำดับ

วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

แบบสัมภาษณ์


แบบสัมภาษณ์พฤติกรรมการอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5โรงเรียนพะเยาพิทยาคม

คำชี้แจง   โปรดทำเครื่องหมาย  P ลงใน q หรือเติมข้อความลงในช่องว่างที่ตรงกับความเป็นจริงในการสัมภาษณ์

ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป
1.เพศ
q ชาย                                                 qหญิง
2.อายุ……….. ปี
3. มัธยมศึกษาปีที่ 5/…………
4.หนังสือที่ท่านชอบอ่านได้มาจากแหล่งใด
                     qของตนเอง                                                      q ยืมจากห้องสมุด                                                                                
   qยืมจากร้านเช่าหนังสือ                                 qยืมจากเพื่อน/บุคคลอื่น
                    qอื่นๆ................................................................
5.ท่านชอบอ่านหนังสือช่วงเวลาใด
                qช่วงเช้า                                                           qช่วงกลางวัน 
                qช่วงเย็น                                                          qช่วงกลางคืน
6.จำนวนครั้งของการอ่านหนังสือที่ท่านชอบ
                qทุกวัน (อ่านเป็นประจำ)
                q5-6 วัน/ สัปดาห์ (อ่านบ่อยครั้ง)
                q3-4 วัน/สัปดาห์ (อ่านบางครั้ง)
                q1-2 วัน/สัปดาห์ (อ่าน นานๆ ครั้ง)


ตอนที่ 2 ข้อมูลหนังสือที่ท่านชอบอ่าน
ท่านชอบอ่านหนังสือประเภทใดต่อไปนี้ (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
qหนังสือเรียน
                q วิชาคณิตศาสตร์                                           q วิชาสุขศึกษา พลศึกษา
                q วิชาสังคมศึกษา                                            q วิชาประวัติศาสตร์
                q วิชาเคมี                                                          q วิชาฟิสิกส์
                q วิชาชีววิทยา                                                  q วิชาภาษาอังกฤษ
                q วิชาภาษาไทย                                               qอื่นๆ..........................................
qนิตยสาร/วารสาร
                บทความใน นิตยสาร/วารสาร ที่ชอบอ่าน
                qด้านสุขภาพ                                                    qด้านกีฬา/การออกกำลังกาย
                qด้านอาหาร                                                     qเครื่องแต่งกาย/เครื่องประดับ/เครื่องสำอาง
                qแวดวงดารา                                                    qการท่องเที่ยว
                qโหราศาสตร์                                                   qอื่นๆ..........................................
qหนังสือพิมพ์
                บทความใน หนังสือพิมพ์ ที่ชอบอ่าน
                qข่าวการเมือง                                                                  qข่าวกีฬา
                qข่าวบันเทิง                                                                      qบทละครโทรทัศน์
                qข่าวเศรษฐกิจ/ธุรกิจ                                                      qข่าวอาชญากรรม
                qข่าวด้านวิชาการ                                                            qอื่นๆ............................................

qหนังสือการ์ตูน                             
qหนังสือนิยาย                                
qงานวิจัย
qอื่นๆ..................................................

วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บทที่ 3

บทที่ 3
วิธีการดำเนินงาน

วิธีดำเนินการวิจัย
1.วางแผน และแบ่งงานให้สมาชิกในกลุ่ม
2.ทำการประเมินพฤติกรรมการอ่านหนังสือของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนพะเยาพิทยาคม
3.  จัดทำเครื่องมือวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์
4.  ออกสำรวจ และเก็บรวบรวมข้อมูล
5.  รวบรวมแบบสำรวจ
6.  รวมคะแนนและคิดเป็นค่าร้อยละผลสำรวจ
7.  สรุปผลและอภิปราย
8.  จัดทำรายงาน
9.  นำเสนอรายงาน


เครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการศึกษา
                1.  คอมพิวเตอร์
                2.  เครื่องมือวิจัย พฤติกรรมการอ่านหนังสือของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนพะเยาพิทยาคม
                3.  กระดาษ
                4.  อุปกรณ์เครื่องเขียน
                5.  เครื่องพิมพ์


บทที่ 2


บทที่ 2
แนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
        1. ความหมายของหนังสือ
ปรียา ไชยสมคุณ(2546:44) กล่าวว่า หนังสือคือสิ่งตีพิมพ์ประเภทหนึ่งที่ผู้เขียน เขียนขึ้นจากความรู้ ความคิด ประสบการณ์ ตลอดจนการศึกษาค้นคว้าของตนเองแล้วบันทึกไว้เป็นมรดกทางปัญญาเพื่อให้เกิดแก่บุคคลและสังคมต่อไป  
  
ทิพวรรณ หอมพูลและคณะ(2542:14) กล่าวว่า หนังสือ หมายถึง ทรัพย์สินทางปัญญาของโลกซึ่งมนุษย์สร้างขึ้น โดยการนำเอาความคิด ความรู้และประสบการณ์มาประมวลเข้าด้วยกันจัดเป็นหมวดหมู่หรือเป็นเรื่องถ่ายทอดออกสู่ผู้อื่นโดยใช้ตัวอักษรประกอบเป็นถ้อยคำ สำนวน โวหารหรือภาษาเป็นสื่อ ช่วยให้มนุษย์เกิดความรู้ความเข้าใจสามารถรับรู้สืบทอดต่อๆกันไป

อำไพวรรณ ทัพเป็นไทย(2549:28)กล่าวว่า หนังสือ คือสิ่งพิมพ์ที่เข้าเล่มและเย็บอย่างถาวร มีส่วนประกอบสมบูรณ์ 

สุนีย์ เลิศแสวงกิจและพิศิษฐ์ กาญจนพิมาย(2546:36)กล่าวว่า หนังสือคือ ทรัพยากรสารนิเทศประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ทำการบันทึกความรู้ ความคิด ประสบการณ์ของมนุษย์ ถ่ายทอดเป็นลายลักษณ์อักษร จัดพิมพ์เป็นเล่ม มีคุณค่าถาวร ในเรื่องหนึ่งๆอาจมีเล่มเดียวหรือหลายเล่มจบ


2. ความสำคัญของการอ่านหนังสือ
                การอ่าน  หมายถึง การแปลความหมายของตัวอักษรที่อ่านออกมาเป็นความรู้ความคิดและเกิดความเข้าใจเรื่องราวที่อ่านตรงกับเรื่อราวที่ผู้เขียนเขียน  ผู้อ่านสามารถนำความรู้  ความคิด หรือสาระจากเรื่องราวที่อ่านไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้  การอ่านจึงมีความสำคัญ  ดังนี้
 1)การอ่านเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน จำเป็นต้องอ่านหนังสือเพื่อการศึกษาหาความรู้ด้านต่าง ๆ
 2)การอ่านเป็นเครื่องมือช่วยให้ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ เพราะสามารถนำความรู้ที่ได้จากการอ่านไปพัฒนางานของตนได้
 3) การอ่านเป็นเครื่องมือสืบทอดทางวัฒนธรรมของคนรุ่นต่อ ๆ ไป
 4)การอ่านเป็นวิธีการส่งเสริมให้คนมีความคิดอ่านและฉลาดรอบรู้ เพราะประสบการณ์ที่ได้จากการอ่านเมื่อเก็บสะสมเพิ่มพูนนานวันเข้า ก็จะทำให้เกิดความคิด เกิดสติปัญญา เป็นคนฉลาดรอบรู้ได้
 5)การอ่านเป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเพลิดเพลินบันเทิงใจ เป็นวิธีหนึ่งในการแสวงหาความสุขให้กับตนเองที่ง่ายที่สุด และได้ประโยชน์คุ้มค่าที่สุด
 6)การอ่านเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต  ทำให้เป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งด้านจิตใจและบุคลิกภาพ เพราะเมื่ออ่านมากย่อมรู้มาก สามารถนำความรู้ไปใช่ในการดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข                                                                                               
7)  การอ่านเป็นเครื่องมือในการพัฒนาระบบการเมือง การปกครอง ศาสนา ประวัติศาสตร์ และสังคม
8)  การอ่านเป็นวิธีการหนึ่งในการพัฒนาระบบการสื่อสารและการใช้เครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์



3. ประโยชน์ของการอ่านหนังสือ
การอ่านหนังสือนั้นมีประโยชน์ต่อชีวิตคนเราอย่างยิ่ง จินตนาใบกาซูยี (2543 : 23)  ได้สรุปบทบรรยายของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีถึงความสำคัญของการอ่านหนังสือว่า 
1)  การอ่านหนังสือทำให้ได้เนื้อหาสาระความรู้มากกว่าการศึกษาหาความรู้ด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การฟัง
2)  ผู้อ่านสามารถอ่านหนังสือได้โดยไม่มีการจำกัดเวลาและสถานที่ สามารถนำไปไหนมาไหนได้
3)  หนังสือเก็บได้นานกว่าสื่ออย่างอื่นซึ่งมักมีอายุการใช้งานจำกัด
4)  ผู้อ่านสามารถฝึกการคิดและสร้างจินตนาการได้เองในขณะอ่าน
5)  การอ่านส่งเสริมให้มีสมองดี มีสมาธินานกว่าและมากกว่าสื่ออย่างอื่น ทั้งนี้ เพราะขณะอ่าน จิตใจจะต้องมุ่งมั่นอยู่กับข้อความ พินิจพิเคราะห์ข้อความนั้นๆ
6)  ผู้อ่านเป็นผู้กำหนดการอ่านได้ด้วยตนเอง จะอ่านคร่าวๆ อ่านละเอียด อ่านข้ามหรืออ่านทุกตัวอักษรเป็นไปตามใจของผู้อ่านหรือจะเลือกอ่านเล่มไหนก็ ได้ เพราะหนังสือมีมาก  สามารถเลือกอ่านเองได้
7)  หนังสือมีหลากหลายรูปแบบและราคาถูกกว่าสื่ออย่างอื่น จึงทำให้สมองของผู้อ่านเปิดกว้าง สร้างแนวคิดและทัศนคติได้มากกว่า ทำให้ผู้อ่านไม่ติดยึดอยู่กับแนวคิดใดๆโดยเฉพาะ
8)  ผู้อ่านเกิดความคิดเห็นได้ด้วยตนเองวินิจฉัยเนื้อหาสาระได้ด้วยตนเอง รวมทั้งหนังสือบางเล่มสามารถนำไปปฏิบัติแล้วเกิดผลดี


4.ประเภทของหนังสือ

    ความสนใจของผู้คนที่มีต่อหนังสือได้มีมากขึ้นไปตามความเจริญของสังคมและบ้านเมือง จนมีคำกล่าวกันว่า หนังสือเป็นเครื่องวัดความเจริญของสังคมอย่างหนึ่ง ความสนใจได้แตกแขนงออกไปอย่างกว้างขวางทำให้เกิดการศึกษาค้นคว้าหาความรู้และทำให้เกิดหนังสือประเภทต่างๆขึ้นมามากมาย เช่น

วารสาร(Periodical)
           
  เป็นหนังสือที่มีชื่อหนังสือคงที่ จัดพิมพ์ออกจำหน่ายจ่ายแจกตามลำดับเรื่อยไปเช่น หนังสือที่พิมพ์ออกมาทุกวันจะมีชื่อหนังสือชื่อเดียวกันตลอดได้แก่ สยามรัฐ ไทยรัฐ เดลินิวส์หรือหนังสือที่พิมพ์ออกมาทุกสัปดาห์ ทุกสองสัปดาห์ ทุกเดือนหรือทุกระยะเวลาต่างๆ มีชื่อหนังสือเหมือนกัน เช่น สตรีสาร วิทยาจารย์ หลักไท หนังสือเหล่านี้เป็นวารสาร หนังสือประเภทวารสารยังอาจแบ่งออกเป็นประเภทย่อยได้เป็นหนังสือพิมพ์(newspaper)และนิตยสาร(magazine)

หนังสือพิมพ์ (newspaper)

    เป็นหนังสือที่มีวัตถุประสงค์หลักในการให้ข่าวสารปัจจุบันแก่ผู้อ่าน ส่วนนิตยสารนั้นมุ่งที่จะให้ความรู้ ความบันเทิงเป็นสิ่งสำคัญ การที่วัตถุประสงค์ในการจัดทำแตกต่างกัน ลักษณะและการใช้งานของหนังสือและลักษณะรูปร่างของหนังสือจึงย่อมแตกต่างกันออกไปด้วย จะเห็นว่า หนังสือพิมพ์นั้นพิมพ์บนกระดาษแผ่นใหญ่เรียงซ้อนกัน พับเป็นเล่มโดยไม่เย็บเล่มและไม่มีปก ส่วนนิตยสารนั้นมักมีปกที่พิมพ์สีสันสวยงามเย็บเป็นเล่มและเจียนเล่มเรียบร้อย ขนาดของเล่มเล็กกว่าหนังสือพิมพ์ การที่หนังสือประเภทใดจะมีรูปเล่มและขนาดอย่างใด ย่อมแล้วแต่ลักษณะและวัตถุประสงค์การใช้งานของหนังสือเล่มนั้นๆเป็นสำคัญ รูปเล่มและขนาดเล่มจะเป็นตัวกำหนดเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องใช้ในการผลิตตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตด้วยจึงเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงเชื่อมโยงกันไปทั้งสิ้น           
   ผู้อ่านหนังสือพิมพ์ต้องการทราบข่าวอันเป็นปัจจุบันและจะสนใจในข่าว ไม่พิถีพิถันมากนักในเรื่องความประณีตในการจัดพิมพ์และการทำเล่ม โดยปกติหนังสือพิมพ์จะพิมพ์วันต่อวัน ความรวดเร็วในการผลิตและการกระจายหนังสือไปให้ถึงมือผู้อ่านจึงเป็นเรื่องสำคัญจึงต้องมีระบบการรวบรวมข่าวให้ได้รวดเร็วและครอบคลุมความสนใจของผู้อ่านให้ทั่วถึง ปริมาณผู้อ่านมีมากจึงต้องจัดพิมพ์ออกเป็นจำนวนมากต่อวัน การเรียงพิมพ์จะเรียงเป็นคอลัมน์เพราะสะดวกในการนำมาจัดหน้า หน้าหนึ่งๆ ในหนังสือพิมพ์ประกอบด้วยเรื่องหลายเรื่องพร้อมรูปภาพประกอบในหน้าเดียวกัน โดยเฉพาะหน้าแรกเป็นหน้าที่ผู้อ่านจะตัดสินใจเลือกซื้อจึงควรเลือกข่าวสำคัญๆหลายข่าวลงพิมพ์รวมไว้ในหน้าแรก โดยเลือกข่าวสำคัญที่สุดพิมพ์เป็นหัวข่าวใหญ่และข่าวรองลงไปตามลำดับเพื่อจะได้ดึงดูดความสนใจจากคนหลายกลุ่ม การพิมพ์ต้องพิมพ์ด้วยความรวดเร็วจึงควรมีรูปเล่มที่สามารถผลิตได้ด้วย ความรวดเร็ว เมื่อพิมพ์และพับเสร็จออกจาก แท่นพิมพ์ก็จัดส่งให้ถึงมือผู้อ่านได้เร็วที่สุด  

   ผู้อ่านสามารถอ่านได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ ไม่ว่าจะกำลังดื่มกาแฟ เข้าห้องน้ำ โดยสารรถหรือเรือ แม้มีเวลาอ่านเพียงเล็กน้อย ถ้ามีข่าวที่ตนสนใจก็จะอ่านก่อน หนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งๆ ประกอบด้วยข่าวหลายข่าวเรื่องหลายเรื่องกระจายไปทั้งหน้า ผู้อ่านจะดูไปตามหัวข่าวทั้งหมดแล้วจึงตัดสินใจว่าสนใจเรื่องใดเป็นอันดับแรกก็จะอ่านเรื่องนั้นก่อน จบแล้วก็จะอ่านเรื่องที่สนใจรองลงไปตามลำดับ ไม่ได้อ่านหมดทุกเรื่องอ่านเพียงแต่เรื่องที่ตนสนใจ หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งอยู่ในความสนใจเพียงวันเดียวหรือไม่ถึงวันจึงมีราคาอยู่เพียงวันเดียว เมื่อพ้นวันไปแล้วก็หมดราคาจนเรียกได้ว่า สูญค่า เพราะราคาหนังสือพิมพ์นั้นจะต่ำกว่าราคาของกระดาษเปล่าที่ยังมิได้พิมพ์ต้องรวบรวมขายกันตามน้ำหนักเป็นกิโลกรัม กระดาษที่ใช้พิมพ์จึงใช้กระดาษปรู๊ฟหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ เพราะราคาถูกไม่ต้องมีความทนทาน
นิตยสาร(magazine)
 สำหรับนิตยสารนั้น ผู้ซื้อจะมีความพิถีพิถันมากกว่าซื้อหนังสือพิมพ์ นิตยสารจึงมีปกที่พิมพ์ภาพสวยงาม อายุการใช้งานมีระยะเวลานานกว่าหนังสือพิมพ์ซึ่งจะมีอายุอย่างน้อยเท่ากับระยะเวลาออกนิตยสารนั้นๆ นิตยสารจึงยังคงคุณค่านานกว่าหนังสือพิมพ์แม้เมื่อพ้นเวลาใช้งานแล้วก็ยังพอมีราคาอยู่บ้าง
 ผู้อ่านนิตยสารต้องมีความสนใจและมีเวลาว่างพอสมควรจึงจะหยิบอ่านโดยจะพลิกดูหน้าต่างๆไปก่อนตลอดเล่มหรือเกือบตลอดเล่มว่านิตยสารเล่มนั้นมีเรื่องใดบ้างจะไม่อ่านเรียงลำดับกันไปจากหน้าแรกเรื่องแรก แต่จะเลือกอ่านเรื่องที่ถูกใจก่อนเป็นเรื่องๆไป ปกติผู้ซื้อส่วนใหญ่ไม่ได้อ่านหมดทุกเรื่องในเล่ม
 หนังสือเล่ม(book)                                                                      

 เป็นประเภทใหญ่ของหนังสืออีกประเภทหนึ่ง อาจแบ่งออกเป็นประเภทย่อยได้หลายวิธี คือ แบ่งตามลักษณะของผู้อ่าน เช่น หนังสือเด็ก หนังสือผู้ใหญ่หรือแบ่งตามเนื้อหาสาระ เช่น หนังสือสารคดี หนังสือบันเทิงคดี ซึ่งแต่ละประเภทแบ่งย่อยออกไปได้อีก เช่น สารคดีอาจแบ่งเป็นแบบเรียนในระดับการศึกษาต่างๆ คู่มือครู แบบฝึกหัดตำราทางวิชาการ หนังสืออ้างอิง บันเทิงคดีก็แบ่งเป็น นวนิยาย กวีนิพนธ์ หนังสือเด็กก็อาจแยกออกเป็น หนังสือภาพ หนังสือการ์ตูน นิยาย หนังสือแต่ละประเภทก็มีลักษณะรูปเล่ม เฉพาะที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของหนังสือประเภทนั้นๆ

  การผลิตหนังสือแต่ละประเภทจึงมีวิธีการและอุปกรณ์ที่เหมาะสมแก่การผลิตหนังสือประเภทนั้นๆ ซึ่งก็ย่อมแตกต่างกันออกไปแต่ละประเภท การซื้อหนังสือเล่มผู้ซื้อจะเลือกซื้อพิถีพิถันมาก เช่น เลือกเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจ เลือกผู้ประพันธ์ที่ตนชอบ พิถีพิถันในคุณภาพของการพิมพ์ การทำเล่มและราคา เมื่อซื้อเล่มใดแล้วก็จะอ่านจากหน้าแรกเรียงลำดับจนจบเล่มเว้นแต่ซื้อมาผิด อ่านไปแล้วไม่ชอบก็ไม่อ่านต่อหรืออาจฝืนอ่านไปจนจบเล่ม หนังสือเล่มมักไม่สูญค่าอ่านแล้วก็ยังเก็บไว้อ่านได้อีกในภายหลังหรือให้ผู้อื่นอ่านต่อได้ ในแต่ละประเภทย่อยของหนังสือเล่มต่างๆก็มีลักษณะเฉพาะ เช่น หนังสือสำหรับเด็กก็มักมีภาพมากและใช้ตัวหนังสือตัวโต ส่วนหนังสือแบบฝึกหัดที่นักเรียนต้องเขียนคำตอบในเล่ม มักเป็นหนังสือปกอ่อน ใช้กระดาษไม่ต้องดีมากพอให้เขียนตอบได้ ไม่ซึมหมึก เพราะใช้เขียนกันครั้งเดียว ราคาไม่แพง เพื่อให้นักเรียนสามารถซื้อได้

หนังสืออ้างอิง

 เป็นหนังสือที่มีลักษณะพิเศษอีกแบบหนึ่งที่ผู้อ่านจะเลือกอ่านค้นคว้าเอาเฉพาะเรื่องที่ต้องการ เช่น หนังสือพจนานุกรมจากภาษาหนึ่งไปอีกภาษาหนึ่ง ผู้ซื้อจะค้นดูศัพท์เฉพาะคำที่ต้องการทราบความหมายโดยจะเปิดดูหน้าและตำแหน่งตรงที่มีศัพท์ที่ต้องการจะค้นแล้วอ่านดูว่ามีคำแปลว่าอย่างใด เข้าใจแล้วก็ปิดเล่มหนังสือเล่มหนึ่งๆได้อ่านจริงๆไม่กี่บรรทัดไม่กี่หน้า หากเป็นพจนานุกรมฉบับกระเป๋าก็จะต้องผลิตให้มีขนาดเล็กสามารถพกติดตัวไปได้สะดวก สามารถค้นดูศัพท์ได้ทุกเวลาที่ต้องการ ขนาดของเล่มหนังสือจะเป็นสิ่งกำหนดตัวพิมพ์ ความหนาของแผ่นกระดาษและชนิดของกระดาษที่จะพิมพ์ เพื่อให้หนังสือมีขนาดพอเหมาะที่จะบรรจุศัพท์ต่างๆลงในเล่มให้ครอบคลุมได้กว้างขวางที่ต้องการและให้ได้ขนาดกว้าง ยาวและหนาพอที่จะพกในกระเป๋าเสื้อของผู้อ่านได้